แนวหน้าไม่ต้องห่วง!!ผู้ว่า สส.กำแพงเพชร เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวทหารรบชายแดน

ผู้ว่ากำแพงเพชร ส.ส.ไผ่ ลิกค์ สร้างขวัญกำลังใจให้แนวหลัง ที่ลูกหลานญาติพี่น้องไปร่วมรบชายแดน สัญญากลับมาจะไม่ทิ้งกัน

หลังเจ้าตัวประกาศชัดเจนไว้ สำหรับไผ่ ลิกค์” ส.ส.กำแพงเพชร เขต 1 พรรคกล้าธรรม ที่ขอไม่รับเงินเดือน สส.(เดือนกรกฎาคม) เพื่อเอาเงินไปให้ทหารแนวหน้า โดยระบุจะนำไปให้น้องๆทหารกำแพงเพชร ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งกำลังเผชิญสถานการณ์ตึงเครียด จากเหตุปะทะระหว่างสองประเทศ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้เสียสละในการปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของชาติ

ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในแนวหน้า ไม่เพียงต้องเผชิญกับความกดดันจากภัยอันตราย แต่ยังต้องห่างไกลครอบครัวและบ้านเกิด พวกเขาคือผู้เสียสละอย่างแท้จริง ในเวลานี้กำลังใจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะช่วยให้พวกเขามีแรงใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ทหารเหล่านี้ไม่ใช่เพียงกำลังพล แต่คือคนของเรา พี่น้องของเรา ลูกหลานของเรา และที่สำคัญที่สุด คือ การเสียสละเพื่อชาติของทหารทุกคน ทำให้วันนี้คนไทยรู้ชัดแล้วว่า ทหารมีไว้ทำไม

นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร นายไผ่ ลิกค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกำแพงเพชร เขต 1 พรรคกล้าธรรม นายโชคชัย รักเกื้อ นายอำเภอเมืองกำแพงเพชร พร้อมเจ้าหน้าที่ ผู้นำท้องถิ่น ได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจครอบครัวบรรดาทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน พร้อมนำปัจจัยในส่วนของเงินเดือนที่ ส.ส.ไผ่ไม่ขอรับ และจากจังหวัดกำแพงเพชร รวมทั้งสิ่งของต่างๆ โดยได้พูดคุยถึงบุตรหลานญาติพี่น้องที่ไปปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา แต่ละครอบครัวต่างมีความห่วงใยและกังวลถึงความปลอดภัย แต่ก็รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ

นายไผ่ ลิกค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกำแพงเพชร เขต 1 พรรคกล้าธรรม กล่าวว่า ตนได้มีโอกาสได้พูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ทราบว่าจังหวัดกำแพงเพชรได้ทำโครงการในส่วนนี้ ตนเองอยากสร้างกำลังใจเล็กๆด้วยการสละเงินเดือนมาช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องของเราจำนวย 34 นาย วันนี้จึงเดินทางมาให้กำลังใจกัน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นห่วงลูกหลาน เมื่อ ลูกหลานออกไปเสี่ยงภัยพ่อแม่ก็นอนไม่หลับเพราะคอยฟังข่าวลูกหลาน ซึ่งก็ให้สัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้งกัน แม้จะปลดประจำการมาก็จะไม่ทิ้งจะหาแนวทางช่วยเหลือกันต่อ

ขณะที่นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวเพิ่มเติมว่า ถึงแม้ว่าหยุดยิงแล้ว แต่สถานการณ์ยังตึงเครียดอยู่ แต่ก่อนหน้านั้นมีการปะทะกัน ขณะเดียวกันทางส่วนกลาง โดยรัฐบาลก็เปิดศูนย์รับบริจาคที่ทำเนียบรัฐบาลทางกระทรวงมหาดไทยเองก็สั่งการมาให้ทางจังหวัดได้ดำเนินการ

ส่วนนางสาวอริสา ตันปิง อายุ 38 ปี เล่าให้ฟังว่าน้องชายเป็นทหารอยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์ ตอนนี้ไปปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่จังหวัดศรีสะเกษ ตนได้คุยกับน้องชายทุกวัน ในแต่ละวันจะสอบถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง น้องชายก็จะบอกว่าไม่ต้องห่วง ปลอดภัยดี แต่ตนยังห่วงน้องชาขทุกวัน เพราะทุกครั้งโทรมาก็ได้ยินแต่เสียงปืนทุกครั้ง วันนี้ส.ส.ไผ่ ผู้ว่า ส่วนราชการ มาเยี่ยมให้กำลังใจ ต้องขอขอบคุณที่ไม่ทอดทิ้งกัน