แหล่งเรียนรู้ชุมชนคุณธรรมต้นแบบ “ชุมชนคุณธรรมบ้านวังพระธาตุ” เรียกน้ำย้อย ทำอาหารคาวหวานจากกล้วยไข่ ขนมสังขยากล้วยไข่ ทับทิมกล้วยไข่ แกงไก่กล้วยไข่ โดดเด่นความเหนียวหนึบของกล้วยไข่อร่อยเด็ดทุกเมนู
บ้านวังพระธาตุ ตำบลไตรตรึงษ์ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ทุกครัวเรือนยังคงดำเนินชีวิตตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยทุกครัวเรือนจะปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทาน และที่เหลือจะแบ่งปันให้กับเพื่อนบ้าน โดยในชุมชนจะมีแหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมกิจกรรมศึกษาเรียนรู้ โดยเฉพาะมีวัฒนะธรรมด้านการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม (การเล่นเพลง ระบำ ก.ไก่) ,(ระบำคล้องช้าง) รวมถึงวัฒนะธรรมด้านอาหารพื้นบ้านหลากหลาย “บ้านวังพระธาตุ” ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ชุมชนคุณธรรมต้นแบบ “ชุมชนคุณธรรมบ้านวังพระธาตุ” โครงการพัฒนาศักยภาพแหล่งเรียนรู้และจัดตลาดนัดความดี เชื่อมโยงเครือข่ายทางสังคม
นางสาวสุขศรี สิทธิ ปราชญ์ชาวบ้าน ในความอุตสาหะที่อนุรักษ์ ฟื้นฟูและสืบทอด การแสดงพื้นบ้านแห่งวังพระธาตุและอาหารพื้นบ้าน พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิบ้างวังพระธาตุ ในช่วงฤดูกาลนี้กล้วยไข่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกำแพงเพชร กำลังออกผลดิบ-ผลสุก ให้เกษตรกรได้เก็บเกี่ยวผลผลิตขาย และนำมาประกอบเป็นอาหารคาวหวาน ช่วงเป็นช่วงกำลังดีกล้วยไข่มีความอุดมสมบูรณ์ จึงได้นำมาทำเป็นเมนูอาหารพิสูจน์ความอร่อย รวบรวมเมนูอาหารไทยหาทานยากมาทำให้ชิม ส่วนเมนูเด็ดในวันนี้ ขนมสังขยากล้วยไข่ ทับทิมกล้วยไข่ แกงไก่กล้วยไข่
ไม่รอช้าให้เลยมื้อเที่ยง เริ่มต้นด้วยอาหารหวานก่อน เป็นเมนูที่คัดสรรใหม่มาหมาดๆ ขนมสังขยากล้วยไข่ เริ่มจากการนำกล้วยไข่ดิบไปต้มให้สุกก่อน จากนั้นนำมาแช่น้ำเกลือแล้วปลอกเปลือกออก ส่วนคนหั่นจับมีดให้ถนัดมือ ตั้งหน้าตั้งตานำผลกล้วยมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆขนาดกำลังพอดี แล้วใส่ในถ้วยที่เตรียมไว้ ส่วนคนตอกไข่ไม่รอช้า นำไข่เป็ดไข่ไก่ตอกใส่ลงไปในถ้วยแก้วใช้ใบเตยเพิ่มความหอมขยำไข่แดง-ไข่ขาวให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำกะทิเทลงไปแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บคลุกเข้าให้เข้ากัน เติมน้ำตาลทรายและเกลือลงไปนิดหน่อย เมื่อขยำเข้ากันแล้วกรองด้วยผ้าขาวบางเพื่อให้ส่วนผสมเนียนเท่ากัน
นำน้ำสังขยาใส่ลงไปในถ้วยที่มีกล้วยไข่ใส่ไว้ก่อนหน้านี้ แล้วนำไปนึ่งโดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที ลองเช็คดูนำช้อนซ้อมจิ้มลงไปตรงกลาง ถ้าไม่มีเนื้อสังขยาติดออกมาแสดงว่าสุกแล้ว นำขึ้นมาพักให้พอหายร้อน กลิ่นความหอมาโชยมาเตะจมูกชวนน้ำลายสอ ไม่รอช้าหยิบช้อนตักรับประทาน ลิ้มรสความอร่อยเนื้อกล้วยไข่เหนียวหนึบสุดฟิน
ต่อมาเป็นการทำทับทิมกล้วยไข่ เมนูนี้ไม่ยุ่งยาก นำกล้วยไข่ต้มสุกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำมาคลุกเค้ากับแป้ง ใส่ลงไปในกระทะน้ำร้อน ต้มให้สุกจนแป้งเกาะติดกับชิ้นกล้วยไข่ ตักขึ้นมาพักน้ำเย็น แล้วนำไปใส่ในน้ำหวาน โรยหน้าด้วยกะทิเท่านี้ก็รับประทานได้แล้ว ส่วนรสชาติหวาน มัน เมื่อเคี้ยวโดนเนื้อกล้วยไข่สัมผัสความละมุนไม่อยากวางช้อนเลยทีเดียว
งานนี้ปิดท้ายด้วยอาหารคาว เมนูแกงไก่กล้วยไข่ เห็นกระทะทองเหลือเก่าเก็บมีมนต์ขลัง ตั้งบนเตาถ่านไฟร้อนพอดี ใส่น้ำมันพืชลงไปตามด้วยเครื่องพริกแกงคั่วกันควันโขมง กลิ่นฉุนชวนให้จามคนละทีสองที ไม่รอช้าตามด้วยเครื่องในเนื้อไก่สับ คลุกเค้าให้เข้ากันเดิมน้ำปลาลงไปนิดหน่อยใส่น้ำเปล่าลงไปพอประมาณ แล้วใส่กล้วยไข่ลงไปทิ้งพอเห็นน้ำเดือด คนให้เข้ากันอีกครั้งแล้วตามด้วยพริกสดใบกระเพา เท่านี้ตักใส่จานรับประทานกับข้าวสวยได้แล้ว
นายดำรงค์ มหาวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไตรตรึงษ์ เปิดเผยว่า สำหรับกล้วยไข่เป็นไม้ผลของจังหวัดกำแพงเพชร ในอดีตปลูกกันเป็นจำนวนมากนับหมื่นไร่ แต่ปัจจุบันเหลือเพียงสองพันกว่าไร่ ในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนตำบลไตรตรึงษ์ มีแนวคิดที่จะอนุรักษ์พันธุ์กล้วยไข่ให้คงอยู่ในพื้นที่ตำบลไตรตรึงษ์ เคยทำโครงการทุนการศึกษามอบกล้วยไข่ให้กับนักเรียนประมาณ 70-80 กว่าคน นำกล้วยไข่ไปปลูก มีหลายบ้านที่ปลูกแล้วประสบผลความสำเร็จเก็บผลกล้วยไข่รับประทานแล้วนำหน่อขยายปลูกต่อไป สำหรับชุมชนคุณธรรมบ้านวังพระธาตุ ได้มีการส่งเสริมปลูกกล้วยไข่นำมาแปรรูปต่อยอดให้มีมูลค่าเพิ่มต่อไป
ด้านนางสาวสุขศรี สิทธิ ปราชญ์ชาวบ้าน เปิดเผยว่า วันนี้ได้นำเมนูอาหารที่เป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดกำแพงเพชรกล้วยไข่ ซึ่งในช่วงนี้จะมีกล้วยไข่ออกตามฤดู จึงได้นำมาทำเป็นอาหารพื้นถิ่นคาว-หวาน หยิบยกมาสองตัวอย่าง อาหารคาวแกงไก่กล้วยไข่ ซึ่งเป็นอาหารพื้นถิ่นที่รับประทานกันมานานแล้ว และยำนอกหม้อหัวปลีกล้วยไข่ ส่วนอาหารหวาน ขนมสังขยากล้วยไข่ ทับทิมกล้วยไข่ ซึ่งชุมชนคุณธรรมบ้านวังพระธาตุ ได้นำเมนูสังขยากล้วยไข่มาเพิ่มเติมใหม่ ส่วนประกอบการทำเหมือนกับขนมสังขยาฟักทอง แต่บ้านวังพระธาตุนำกล้วยไข่มาใส่แทน มีความอร่อยไม่แพ้กัน ซึ่งเป็นการใช้พืชเศรษฐกิจของจังหวัดกำแพงเพชร มาทำเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้านวัฒนะธรรมด้านอาหารพื้นบ้าน
ทั้งนี้ กล้วยไข่ที่นำมาประกอบเป็นอาหารคาว-หวาน เป็นกล้วยไข่ที่นำมาจากหลังบ้านนางสาวสุขศรี สิทธิ ปราชญ์ชาวบ้าน ปลูกไว้รับประทานเองในครัวเรือน เป็นการอนุรักษ์กล้วยไข่ให้คงอยู่คู่กับจังหวังหวัดกำแพงเพชรต่อไป