พูดแบบอารมณ์ดี!!ไม่ใส่แมสปรับแพงกว่าหมวกกันน็อค

อารมณ์ดี พูดไปหัวเราะไป….ไม่ใส่แมส ปรับแพงกว่าหมวกกันน๊อค หลังจากจังหวัดกำแพงเพชร เพิ่มมาตรการป้องกันโควิด-19 ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ออกจากเคหสถานหรือที่พำนัก ปรับ 6,000 บาท สูงสุดปรับไม่เกิน 20,000 บาท

วันนี้เป็นวันแรก ของการขยายคำสั่งจังหวัดกำแพงเพชร เรื่อง มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) (ฉบับที่ 22) ไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 และเพิ่มคำสั่งกำหนดมาตรการให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่ออยู่นอกเคหสถานหรือสถานที่สาธารณะ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2564

การออกคำสั่งเข้ม เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่ โดยให้ประชาชนสวม “หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า” ทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกจากที่อยู่อาศัย หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง มีความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558  ต้องระวางโทษปรับ 6,000-20,000 บาท”

จากการสำรวจในตัวเมืองกำแพงเพชร พบว่า ประชาชนต่างสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า เวลาที่ออกนอกเคหสถานกัน 100 เปอร์เซ็นต์ บางคนพูดด้วยอารมณ์ดี “ปรับแพงกว่าหมวกกันน๊อคอีก” เลยพกหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าสำรองมาด้วย เผื่อหายหรือโดนฝนเปียกจะได้มีไว้เปลี่ยน โดยหลักแล้วประชาชนในจังหวัดกำแพงเพชร ได้ตระหนักสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ป้องกันอยู่แล้ว เพื่อป้องกันตนเองและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสด้วย

พร้อมทั้ง ขอความร่วมมืองดการจัดกิจกรรมทางสังคมในลักษณะที่เป็นงานสังสรรค์ งานเลี้ยง หรืองานรื่นเริง ในช่วงเวลานี้ และขอความร่วมมือประชาชนงดหรือชะลอการเดินทาง ในช่วงเวลานี้ไว้ก่อน เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งจังหวัดกำแพงเพชร ได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19  จำนวน 100 เตียง แบ่งเป็นชาย 50 เตียง หญิง  50 เตียง และพร้อมรองรับผู้ติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ได้เน้นย้ำขอให้ประชาชนจังหวัดกำแพงเพชร ตระหนักถึงความสำคัญการป้องกันการแพร่ระบาดโดยปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T อย่างเคร่งครัด เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน หรืออยู่ในที่สาธารณะ ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ เฝ้าระวังอาการเจ็บป่วยของตนเอง หากพบว่ามีอาการป่วย และมีประวัติในพื้นที่เสี่ยง ให้พบแพทย์ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน เมื่อมีความจำเป็นจะต้องไปในที่ชุมชน ให้ใช้ แอปพลิเคชัน “หมอชนะ” และสแกน QR Code “ไทยชนะ” ทุกครั้ง

 

, , ,