หลายคนกำลังมองหาอาชีพเสริม เพื่อสร้างรายได้และเสริมสร้างความมั่นคงภาคครัวเรือน การเผามันหลามหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในการสร้างรายได้
จากมันสำปะหลังปลูกไว้เพื่อเข้าโรงงานอุตสาหกรรม ถูกพัฒนาสายพันธุ์เป็นมันสำหรับบริโภค หนึ่งในเกษตรกร ตำบลวังไทร อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร นายสุรินทร์ พิชัย หรือ ลุงน้อย อายุ 59 ปี นำพืชเศรษฐกิจอย่างมันสำปะหลังมาปรับปรุงพันธุ์เป็นมันบริโภค และต่อยอดจากข้าวหลามแต่ใช้มันสำปะหลังพันธุ์ชากังราวทดแทนข้าว มันหลามอบโอ่ง เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตทางการเกษตร สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และยังเป็นการสืบสานภูมิปัญญาและวัฒนธรรมอาหารของท้องถิ่นอีกด้วย คือแนวคิดและตัวอย่างที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ เริ่มจากเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังชากังราว 2 โตเต็มที่ ขุดหัวมันขึ้นมาตัดต้นไว้ทำพันธุ์ต่อ นำเฉพาะหัวมันที่ฝังอยู่ในดิน ไปล้างน้ำทำความสะอาดกำจัดเศษดินที่ติดมา จากนั้นปอกเปลือกออกใช้เฉพาะเนื้อมัน แล้วนำไปล้างน้ำอีกครั้ง ถึงจะนำไปใส่ในเครื่องบดให้ละเอียด แล้วนำไปผสมเครื่องปรุงรสตามสูตรเฉพาะตัว แล้วนำไปกรอกใส่กระบอกไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ นำไปเผาในโอ่งหรือถัง ซึ่งมีเตาถ่านติดไฟให้ความร้อน ให้มันหลามสุกพร้อมรับประทาน ซึ่งการอบในโอ่งจะได้ความร้อน ควันน้อย และสีของไม้ไผ่จะไม่มีรอยดำไหม้
มันหลามของลุงน้อย มีหลายสูตรเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค เลือกรับประทานตามใจชอบ มีมันหลามไส้ถั่วดำ มันหลามไส้ข้าวเหนียวดำ มันหลามไส้งา มันหลามไส้เผือก เป็นต้น มีกลิ่นหอม รสชาติความอร่อย เนื้อนิ่มมันติดหวานนิดหน่อยที่เป็นเอกลักษณ์ ถือว่าเป็นอาหารทานเล่นที่ได้รับความนิยมมีความต้องการของตลาด และยังสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นจากรุ่นสู่รุ่นอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ให้สามารถผลิตและจำหน่ายมันหลามคุณภาพสู่ตลาด ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดียิ่งขึ้น โดยสำนักงานเกษตรอำเภอคลองขลุง ได้จัดทำโครงการ “ตลาดเกษตรสุขใจ” เพื่อให้เกษตรกรนำสินค้าเกษตรวางจำหน่ายที่บริเวณทางเท้า หน้าสหกรณ์ออมทรัพย์ครูคลองขลุง ทุกวันจันทร์ และวันประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน โดยเริ่มขายเวลา 7 โมงเช้าถึงเที่ยง
ลุงน้อย เล่าให้ฟังว่า เดิมที่พ่อแม่มีอาชีพเกษตรกรทำมันสำปะหลังตั้งแต่ตนยังเล็ก มองเห็นว่าราคามันสำปะหลังขึ้นและลงไม่คงที่ จึงมองว่าถ้ายังทำอาชีพเกษตรกรอยู่เหมือนเดิมรายได้คงไม่เพิ่มขึ้น จึงคิดว่าจะทำมันสำปะหลังจากส่งอุตสาหกรรม มาเป็นมันสำปะหลังบริโภคเพื่อยกระดับราคาได้
จึงได้พยามพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ ร่วมกับ สมาคมมันสำหลังไทยภาคเหนือ โดยใช้มันสำปะหลังพันธุ์ลูกผสมข้ามชนิด พันธุ์แม่ได้จากมันสำปะหลังพันธุ์ห้านาที และพันธุ์พ่อมาจากมันสำปะหลังป่า ทำการเพาะและคัดเลือกจนได้สายพันธุ์ที่ลงตัว และจดทะเบียนรับรองพันธุ์พืช ชื่อว่า มันสำปะหลัง พันธุ์ชากังราว 2 เมื่อปี 2565 ปัจจุบัน ตนได้ปลูกมันชากังราว 2 จำนวน 30 ไร่ นอกจากจำหน่ายท่อนพันธุ์ออกต่างจังหวัดแล้ว ยังนำมาต่อยอดทำเป็นมันหลาม โดยใช้ชื่อว่าข้าวหลามมันหวานชากังราว ซึ่งในแต่ละวัน จะทำขายประมาณ 80-100 กระบอก ขายในราคากระบอกละ 25-50 บาทแล้วแต่ขนาด และกำลังจะทำเป็น มันหลามช็อท เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค ลุงน้อย เป็นเกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลัง พันธุ์ชากังราว 2 ซึ่งเป็นมันสำปะหลังที่ลำต้นใหญ่ งอกดี หัวดก รับประทานอร่อย ไม่ขม เนื่องจากมีสารไซยาไนด์น้อย เปอร์เซ็นต์แป้งสูง เกษตรกรประสบปัญหาราคาตกต่ำ เกษตรกรจึงมีการพัฒนาแปรรูปเป็นแป้งมันที่ใช้ทำอาหาร การทำข้าวหลามที่ทำจากมันสำปะหลัง สอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร 082 426 3549
นางสุกัญญา นาคประดิษฐ์ เกษตรอำเภอคลองขลุง กล่าวว่า สำนักงานเกษตรอำเภอคลองขลุงมีโครงการตลาดเกษตรสุขใจ เริ่มเปิดตลาดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรซึ่งเป็นผู้ผลิตมาจำหน่ายสินค้าของตนเองโดยตรง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ทำให้เกษตรกรได้ทราบถึงความต้องการของผู้บริโภค และสามารถเพิ่มรายได้ให้กับตนเอง นายสุรินทร์จึงติดต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอคลองขลุง เพื่อขอสมัครเข้ามาจำหน่ายในตลาดเกษตรสุขใจ อำเภอคลองขลุง เพื่อสร้างรายได้ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปได้รู้จักสินค้าของตน ปรากฏว่า หลามมันหวานชากังราว ได้รับความนิยม และสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถขยายไปยังตลาดต่าง ๆ ภายในจังหวัดได้