เกษตรกรกำแพงเพชร!!ปลูกผลไม้ตามฤดูกาล ทำฟาร์มปศุสัตว์เพื่อการท่องเที่ยว

สามีภรรยา เกษตรกรกำแพงเพชร ปลูกผลไม้ตามฤดูกาล เลี้ยงแพะ หมูป่า วัว เพื่อใช้ประโยชน์จากมูลสัตว์ทำเป็นปุ๋ย ลดต้นทุน เพิ่มรายได้สู่ภาคครัวเรือน เตรียมเปิดโอมสเตย์ ต้อนรับนักท่องเที่ยว

อาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพอยู่คู่วิถีคนไทย ไม่ต้องจบถึงดอกเตอร์ ก็สามารถเป็นเกษตรกรได้เช่นกัน แต่ต้องมีใจรัก อดทนถึงจะประสบความสำเร็จในอาชีพเกษตรได้ไม่ยาก นายราเชน บุญผ่อง นางพิมพรรณ บุญผ่อง สามีภรรยาก อยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่ที่ 8 ตำบลคลองน้ำไหล อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ยึดมั่นหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและน้อมนำศาสตร์พระราชาด้านการบริหารจัดการ นำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้ที่เป็นสวนไม้ผลและเลี้ยงปศุสัตว์ เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณภาพให้แก่ชุมชน ปัจจุบันที่ฟาร์มแหล่งนี้ มี 26 ไร่ ผ่านการทำนา ปลูกอ้อย เป็นพืชเชิงเดี่ยว เมื่อประสบปัญหาผลผลิตตกต่ำทำให้ขาดทุน

จึงได้ปรับเปลี่ยนปลูกพืชหลากหลายตามฤดูกาล พร้อมทำฟาร์มปศุสัตว์ควบคู่ไปด้วย ซึ่งในช่วงนี้มังคุด จำนวน 60 ต้น ให้ผลผลิตเก็บขายได้แล้ว มีลูกค้าทั้งในและต่างจังหวัดสั่งจองเป็นจำนวนมาก ทำให้ในช่วงฤดูกาลนี้ มีรายได้จากการขายมังคุดเป็นที่น่าพอใจ โดยส่วนใหญ่เป็นลูกค้าขาประจำสั่งกันเข้ามา เพราะชอบในรสชาติมังคุดที่สวนแห่งนี้ แม้นว่าลูกจะไม่ใหญ่ แต่รสชาติเปรี้ยวอมหวาน จึงเป็นที่ติดใจของลูกค้า เมื่อเก็บผลมังคุดแล้วแพ็คจัดส่งทางเคอรี่

ส่วนมังคุด เริ่มปลูกตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 การดูแลไม่ยุ่งยาก ใส่ปุ๋ยคอกบำรุงดินเพื่อลดต้นทุนในการผลิต หากปีไหนฝนดีมังคุดจะให้ผลดก แต่ปีนี้ฝนตกน้อยทำให้สวนแห่งนี้ได้รับผลกระทบพอสมควร ผลผลิตออกน้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่กลับราคาดีขายกิโลกรัมละ 50 บาท มังคุดที่สวนนี้ ไม่ว่าปีไหนจะออกน้อยออกมาก มีลูกค้าสั่งมาซื้อจนขายหมดสวนทุกปี อาจเป็นเพราะมังคุดเป็นผลไม้ยอดนิยมของคนไทย

นอกจากปลูกผลไม้ตามฤดูกาลแล้ว ยังทำฟาร์มปศุสัตว์ เลี้ยงปลา เลี้ยงวัว เลี้ยงหมูป่า เลี้ยงแพะ เป็นอาชีพที่ดีอย่างหนึ่งของเกษตรกร สามารถเลี้ยงเป็นอาชีพหลัก หรือหากเลี้ยงจำนวนไม่มากเป็นอาชีพเสริมก็ได้ ส่วนที่นี่เลือกทำควบคู่กันไปทำให้มีรายได้ดีขึ้น มีเงินทุนหมุนเวียนใช้จ่ายในครอบครัว หากทำการเพาะปลูกไม่ได้ผล ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ การทำปศุสัตว์จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนลงได้ มีรายได้หมุนเวียนใช้ในครัวเรือนไป นอกจากนี้ การทำปศุสัตว์จะได้มูลสัตว์มาใช้เป็นปุ๋ยบำรุงดิน ทำให้ได้รับผลผลิตจากการเพาะปลูกมากขึ้น ไม่ต้องเสียเงินซื้อปุ๋ยมาใช้ ทั้งนี้ เกษตรกรยังได้รับความเพลิดเพลินจากการเลี้ยงสัตว์ อย่างเช่น แพะฝูงนี้เลี้ยงไว้ในทุ่งกว้าง ทำให้แพะอารมณ์ดี แข็งแรงขยายพันธุ์ไวขึ้น และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวชื่นชอบเชิงเกษตร มาถ่ายรูปสวยให้อาหารแพะ ชมวิวภูเขา ฟิลบรรยากาศธรรมชาติ เป็นการพักผ่อนใช้ธรรมชาติบำบัดไปในตัว

ส่วนแพะที่นี่ เริ่มเลี้ยงจากมีพ่อพันธุ์หนึ่งตัวแม่พันธุ์สามตัว ปัจจุบันสามารถขยายพันธุ์ขายให้กับเกษตรกรที่สนใจ จนมีรายได้คืนทุนเป็นกำไรแล้ว ส่วนตัวผู้ขายเป็นแพะขุนกิโลกรัมละ 100 บาท ตัวเมียเลี้ยงไว้ทำแม่พันธุ์ต่อไป หากมีคนสนใจซื้อก็ขายเช่นกัน ส่วนราคาแล้วแต่จะตกลงกันอีกที ทั้งนี้เตรียมพร้อมจะเปิดเป็นโอมสเตย์ เพื่อรับนักท่องเที่ยว จะได้สัมผัสกับวิถีเกษตร ปัจจุบันการทำเกษตรควบคู่ปศุสัตว์และการท่องเที่ยว ถือว่าตอบรับเพิ่มพูนรายได้เป็นอย่างดี สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 095 270 8327