ในวัยเกษียณอายุราชการ อาจารย์หญิงแกร่ง ปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำไร่นาสวนผสม ทำให้พื้นที่ทุกตารางเมตร มีกิน มีใช้ มีรายได้สู่ภาคครัวเรือน
นายศักดิเดชน์ แก้ววิเศษ เกษตรจังหวัดกำแพงเพชร พร้อมด้วย นางนิตยา เจนจบ เกษตรอำเภอบึงสามัคคี เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอบึงสามัคคี และเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ลงพื้นที่ดูการดำเนินงานของเครือข่าย ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) โคก หนอง นา โมเดล ตามศาสตร์พระราชากับการทำเกษตรอย่างยั่งยืน ของ ดร.ยุเวช ทองนวม ครูเกษียณ หมู่ที่ 1 ตำบลระหาน อำเภอบึงสามัคคี จังหวัดกำแพงเพชร
โดย ดร.ยุเวช ทองนวม และคู่ชีวิต คุณครูอาคม ทองนวม ได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่นา มาทำไร่นาสวนผสม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ สู่ในพื้นที่ 16 ไร่ 2 งาน โดยการบูรณาการขับเคลื่อนการทำงานของหน่วยงานภาคีเครือข่าย จัดตั้งเป็นเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ภายในศูนย์เรียนรู้ฯ ประกอบไปด้วย ฐานเรียนรู้ จำนวน 6 ฐานเรียนรู้ ได้แก่ 1. ฐานเรียนรู้ คนรักษ์แม่โพสพ 2. ฐานเรียนรู้ คนเอาถ่าน 3. ฐานเรียนรู้ คนรักษ์น้ำ 4. ฐานเรียนรู้ คนมีน้ำยา 5. ฐานเรียนรู้ คนรักษ์แม่ธรณี 6. ฐานเรียนรู้ คนรักษ์ป่า นอกจากนี้ พื้นที่ที่เหลือยังแบ่งปลูกไม้ป่าเศรษฐกิจ โดยแบ่งออกเป็น สูง กลาง ต่ำเตี้ย เรี่ยดิน และใต้ดิน
ดร.ยุเวช ทองนวม ครูเกษียณ ได้พาชมผลผลิตการทำเกษตรแบบเกื้อกูลกัน เพื่อลดต้นทุนการผลิต สภาพแวดล้อมภายในสวนร่วมรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ขุดสระน้ำเลี้ยงปลาเป็นสถานที่พักผ่อน ชมนาข้าว การสีข้าวไว้กินเอง ตลอดจนน้ำวัสดุเหลือใช้ภายในสวนหมุนเวียนใช้ประโยชน์อย่างครบวงจร นำผลผลิตจากที่เหลือใช้มาแปรรูป นอกจากนี้ยังสามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้ มีฐานความรู้ต่างๆ สามารถสแกนคิวอาร์โค้ด เรียนรู้เดินชมความเพลิดเพลินกับบรรยากาศสวย
ดร.ยุเวช ทองนวม ครูเกษียณ เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะมาทำตรงนี้ รับราชการครู มาก่อนทั้งคู่เมื่อเกษียณอายุราชการ ได้หาสิ่งที่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ มีที่ผ่อนคลายตอนเย็น เพื่อไม่ให้เกิดความเหงา ป่วยด้วยโรคซึมเศร้า โดยพื้นฐานพ่อแม่เป็นเกษตรกร ตนได้มรดกความรู้ทางการเกษตรจากพ่อแม่ติดตัวมาด้วย เป็นความทรงจำอยู่ในจิตใต้สำนึก หลังเกษียณแล้วจะทำอะไรดี เลยคิดว่าทำเกษตรแบบสวนผสม ยึดหลักศาสตร์ของพระราชา พอกิน พออยู่ พอใช้ พอร่มเย็น แล้วพอได้ผลผลิตแล้วรู้จักการแบ่งปันแล้วก็ขายเป็นรายได้
นายศักดิเดชน์ แก้ววิเศษ เกษตรจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า สำหรับลักษณะการทำเกษตรผสมผสานหรือไร่นาสวนผสม สถานที่แห่งนี้ เป็น ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) อำเภอบึงสามัคคี ถือว่าเป็นตัวอย่าง ที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยไม่อาศัยปัจจัยภายนอกเลย อย่างเช่น อาหารปลา ปุ๋ยอินทรี ซึ่งเป็นต้นทุนการผลิต สามารถที่จะทำขึ้นมาใช้ได้เอง ซึ่งเมื่อก่อนสถานที่แห่งนี้เป็นที่นาข้าว ได้ปรับเปลี่ยนมาทำเป็นเกษตรผสมผสาน เป็นไร่นาสวนผสม สามารถลดความเสี่ยงจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ถือว่าเป็นต้นแบบการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้มีความมั่งคง
เนื่องจากจังหวัดกำแพงเพชร มีพื้นที่ปลูกข้าวอยู่ประมาณ 1,200,000 ไร่ แต่ละปีมักจะเกิดปัญหามากมาย เช่น ราคาผลผลิตข้าวตกต่ำ หรือไม่ก็เกิดภัยธรรมชาติ ฝนแล้งน้ำท่วม การปรับพื้นที่ส่วนหนึ่งมาทำเกษตรยั่งยืนแบบนี้ เป็นอีกทางหนึ่งที่จะทำให้เกษตรกร ซึ่งปลูกข้าว 57,000 ครัวเรือนในจังหวัดกำแพงเพชร สามารถที่จะพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน สามารถมีรายได้ทุกวัน และลดการพึ่งพาจากภายนอก ซึ่งเป็นศาสตร์ของพระราชาโดยแท้ ที่จะทำให้เกษตรกรสามารถประกอบอาชีพเกษตรกรอย่างยั่งยืนต่อไป
ทั้งนี้ ดร.ยุเวช ทองนวม ครูเกษียณ ยังเล่าเพิ่มเติมอีกว่า สถานการณ์ของโลกปัจจุบันนี้ ทำให้ต้องปรับตัวเตรียมพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ ด้านอยู่เสมอ โดยการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พออยู่ พอกิน พอใช้ ยึดความประหยัด ตัดทอนค่าใช้จ่าย ลดความฟุ่มเฟือย ในการดำรงชีพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือความสุขของชีวิตวัยเกษียณ