แม่วัย31หลั่งน้ำตา วอนช่วยลูกน้อย!!ป่วยเลือดออกในสมอง กดทับประสาทตา

แม่วัย 31 หลั่งน้ำตา วอนช่วยลูกน้อยวัยขวบ 7 เดือนป่วยเลือดออกในสมอง กดทับประสาทตา มองไม่เห็นตลอดชีวิต เจาะค่อยช่วยหายใจ เจาะท้องให้อาหาร ให้ยา ขยับตัวได้ แต่เคลื่อนไหวไม่ได้ ต้องคอยดูไม่ห่าง ไร้เงินรักษา ค้างค่าเช่าห้อง 3 เดือน เจ้าของห้องเช่าใจดีให้อยู่ไปก่อน แถมดูแลช่วยเหลือเหมือนกับญาติทุกอย่าง

ที่ห้องเช่าชั้นเดียวเลขที่ 185 หมู่ที่ 3 ต.คลองแม่ลาย อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นห้องเช่าปูนชั้นเดียว เป็นที่พักอาศัยของ น.ส.สุกัญญา เฉลิมศรี อายุ 31 ปี พร้อมด้วย น้องเฟิร์ส ลูกชายวัย 1 ขวบ 7 เดือน ส่วนสามีได้เลิกกันไปตั้งแต่ตั้งท้องได้ 8 เดือน        ซึ่ง น.ส.สุกัญญา หรืออ้อม ผู้เป็นแม่เล่าว่า ลูกชายของตนได้เกิดอุบัติเหตุจมน้ำ ช่วงอายุได้ 1 ขวบ 2 เดือน ในระหว่างที่ตนกำลังอาบน้ำให้ ในจังหวะที่ตนไปหยิบผ้าเช็ดตัวและเดินกลับมา พบว่าลูกชายของตนนอนคว่ำหน้าลงไปในอ่างน้ำ ตนได้ส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร แต่ในช่วงระหว่างนำตัวลูกชายไปเอกซเรย์ ปรากฏว่า หัวใจหยุดเต้นและได้ทำการปั๊มหัวใจกลับมาเต้นอีกครั้ง  จึงได้ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลในต่างจังหวัด ประมาณ 2 เดือน และได้ทำการรักษาจนอาการดีขึ้น  โดยได้ทำการเจาะคอและเจาะช่องท้องเพื่อทำการรักษาต่อ ก่อนจะส่งตัวกลับมารักษาต่อยังโรงพยาบาลกำแพงเพชร

เมื่ออาการเริ่มดีขึ้นจึงได้กลับมารักษาตัวต่อภายในห้องเช่า เพราะเลี่ยงต่อการติดเชื้อ ในแต่ละวันตนต้องคอยเช็ดตัวทำความสะอาดร่างการ แผลที่ช่องท้อง แผลที่คอ คอยดูดเสมหะในลำคอ ให้อาหารและยาทางสายยางเข้าทางช่องท้อง หยอดน้ำตาเทียมทุก 2 ชั่วโมง และที่สำคัญต้องคอยให้ออกซิเจน ตลอดเวลา ส่วนสายตาน้องมองไม่เห็นแล้ว โดยความลำบากอยู่ที่ตนเองไม่มีรายได้อะไรเลย ที่จะมาใช้จ่ายในการที่จะต้องรักษาต่อเนื่อง จะออกไปรับจ้างก็ไปไม่ได้เพราะต้องคอยดูแลลูกอย่างไม่คลาดสายตา เพราะหากเผลอเพียงเสี้ยวนาที ลูกมีเสมหะติดค้างในลำคอ ขาดอากาศหายใจ หรือติดเชื้อกะทันหัน ก็เสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ทันที ความลำบากของตนสองแม่ลูกอยู่ที่การดูแลลูกก็ต้องมีค่าใช้จ่าย แต่ตนไม่มีรายได้ จึงอยากออกไปรับจ้าง แต่ก็ไม่สามารถทิ้งลูกไปได้ เมื่อออกไปรับจ้างไม่ได้ จึงไม่มีรายได้ก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร จะให้ตนออกไปรับจ้างและจ้างคนมาดูแลลูกก็ไม่ได้เพราะกลัวว่าลูกจะติดเชื้อ ซึ่งตนและลูกตอนนี้ลำบากจริงๆ ขนาดค่าเช่าห้องยังไม่ได้จ่ายมาจะ 3 เดือนแล้ว แต่ก็โชคดีที่เจ้าของห้องเช่าเมตตา ให้ตนสองแม่ลูกอาศัยอยู่ไปก่อน นึกถึงชีวิตลูกไว้ก่อน แถมยังคอยเข้ามาดูแลทุกสิ่งทุกอย่างทั้งการคอยเปลี่ยนถังออกซิเจนให้ตลอดทุกครั้ง คอยหาข้าวปลาอาหาร ผลัดเปลี่ยนดูแลลูกเวลาตนทำธุระส่วนตัว

ขณะที่ น.ส.อัญญาริศา นาคะ อายุ 20 ปี เจ้าของห้องเช่า เปิดเผยว่า สองแม่ลูกมาอยู่ด้วยนานแล้วตั้งแต่น้องเฟิร์ส ร่างกายปกติ ในฐานะเจ้าของห้องเช่า ตนเห็นทั้งสองคนเป็นแบบนี้ก็รู้สึกเห็นใจและเข้าใจเป็นอย่างดี ก็ต้องช่วยเหลือกันไป ในส่วนของค่าเช่าถ้ายังไม่มีก็ไม่เป็นไร อะลุ่มอล่วยกันได้ เพราะเราก็เห็นกับตาว่าเขาลำบากแบบนี้ เราพอช่วยเหลือได้ก็ช่วยเหลือกันไปก่อน โดยตนยังคอยช่วยเหลือทั้งสองคนทุกอย่าง เนื่องจากแม่เด็กไม่มีรถ อยู่ตัวคนเดียว ของที่ต้องใช้ในแต่ละวันเราก็จะช่วยจัดการให้ โดยเฉพาะออกซิเจนในถังหมดไม่มีรถไปตนก็จะอาสานำไปเปลี่ยนยังโรงงานบรรจุ ที่อยู่ห่างจากห้องเช่าไกลกว่า 5 กิโลเมตร มาให้ทันท่วงที เพราะไม่เช่นนั้น พูดกันตรงๆคือน้องกะจะไม่มีชีวิตรอด ซึ่งครั้งนึ่งก็เคยเกิดเหตุการณ์ที่น้องขาดอากาศหายใจจนเกือบจะถึงขั้นวิกฤติ แต่ตนก็นำถังออกซิเจนมาเปลี่ยนได้ทันเวลา ซึ่งตนมองว่าอะไรที่ช่วยกันได้ก็ต้องช่วยกันไปก่อน สำหรับใครที่ต้องการจะช่วยเหลือเยียวยาไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษาตามนัด ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนถังออกซิเจน ค่าอุปกรณ์ทำความสะอาดร่างกายน้อง และค่ารักษาพยาบาลในแต่ละครั้ง สามารถบริจาคผ่านบัญชีเงินฝากหมายเลขบัญชี 020 013 453 461  เงินฝากออมทรัพย์ ธกส.สาขาคลองลาน ชื่อบัญชี นางสาวสุกัญญา เฉลิมศรี

คลิ๊กเข้าชมสินค้า

, ,