สหกรณ์จังหวัดกำแพงเพชร จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือซื้อ ขาย ผลผลิตการเกษตรวงเงิน 719 ล้านบาท จำแนกเป็นข้าวเปลือก 499 ล้านบาท มันสำปะหลัง 220 ล้านบาท
ที่ห้องประชุมเยาวมาลย์ โรงแรมชากังราวริเวอร์วิว ตำบลในเมือง อำเภอเมือง นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เป็นประธานและสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) ซื้อ ขาย ผลผลิตการเกษตร ภายใต้โครงการจัดการผลผลิตเพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืน ปีการผลิต 2564/65 ระหว่างสหกรณ์การเกษตร กับผู้ประกอบการภาคเอกชนในจังหวัดกำแพงเพชร และมีนายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์,นายวิฑูร อุดมรัตนิวาส รองผอ.ฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนล่าง(ธกส.),นางสาวไพรินทร์ สุขเล็ก สหกรณ์จังหวัดกำแพงเพชรร่วมเป็นสักขีพยาน ในรูปแบบกำแพงเพชรโมเดล ระยะเวลาขับเคลื่อนโครงการ 3 ปี เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงิน แก่สถาบันเกษตรกรนำไปรวบรวม รับซื้อผลผลิตจากสมาชิกและเกษตรกรทั่วไปที่ปลูกข้าวและมันสำปะหลัง
ด้านนางสาวไพรินทร์ สุขเล็ก สหกรณ์จังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่า สำนักงานสหกรณ์จังหวัดกำแพงเพชร ร่วมกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรสาขากำแพงเพชร ได้ประสานความร่วมมือในการขับเคลื่อนการเชื่อมโยงธุรกิจเกษตรครบวงจร ระหว่างสถาบันเกษตรกร (สหกรณ์) กับผู้ประกอบการในรูปแบบพันธสัญญาหรือคู่ค้า ภายใต้โครงการจัดการผลผลิตเพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืน รูปแบบกำแพงเพชรโมเดล ระยะเวลาขับเคลื่อนโครงการ 3 ปี ปีการผลิต 2564/65 ปีการผลิต 2566/67
วัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงิน แก่สถาบันเกษตรกรนำไปรวบรวม รับซื้อผลผลิตจากสมาชิกและเกษตรกรทั่วไปที่ปลูกข้าวและมันสำปะหลัง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบอาชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร โดยมีมูลค่าการซื้อ – ขาย ผลผลิตการเกษตร วงเงิน 719 ล้านบาทจำแนกเป็นข้าวเปลือก 499 ล้านบาท มันสำปะหลัง 220 ล้านบาท
ด้านนายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่าจังหวัดกำแพงเพชรมีพื้นที่เกษตรกรรมกว่า 3,620,445.77 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 67.30 ของพื้นที่จังหวัด มีเกษตรกรที่ทำการเกษตร 278,548 ครัวเรือน จังหวัดกำแพงเพชรได้ส่งเสริมขับเคลื่อนการบริหารจัดการสินค้าเกษตรที่เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด ด้วยการส่งเสริม สนับสนุน ให้เกิดการเชื่อมโยงธุรกิจเกษตรครบวงจร ในรูปแบบพันธสัญญาหรือคู่ค้าภายใต้โครงการจัดการผลผลิต เพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืน รูปแบบกำแพงเพชรโมเดลเพื่อแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตการเกษตร ภายใต้หลักการตลาดนำการผลิตตามนโยบายของรัฐบาล
การจัดการผลผลิตเพื่อยกระดับรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืน รูปแบบกำแพงเพชรโมเดล เป็นการขับเคลื่อนการบูรณาการร่วม 3 ฝ่ายระหว่างหน่วยงานภาครัฐสหกรณ์การเกษตรที่เป็นองค์กรของเกษตรกร และผู้ประกอบการโรงสี ผู้ประกอบการมันสำปะหลังระยะเวลาขับเคลื่อนโครงการ 3 ปี เริ่มตั้งแต่ปีการผลิต 2564/65 ถึงปีการผลิต 2566/67 การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU ซื้อ – ขาย ผลผลิตการเกษตรมีสหกรณ์ร่วมลงนามจำนวน 10 แห่ง กับ ผู้ประกอบการโรงสี ผู้ประกอบการมันสำปะหลังจำนวน 10 แห่ง วงเงินรวมทั้งสิ้น 719 ล้านบาทต่อรอบปีการผลิต ผลผลิตการเกษตร จำนวน 152,502 ตัน จำแนกเป็นข้าวเปลือก 64,502 ตันมูลค่า 499 ล้านบาทมันสำปะหลัง 88,000 ตันมูลค่า 220 ล้านบาท
การส่งเสริมขับเคลื่อนการบริหารจัดการสินค้าเกษตรในรูปแบบกำแพงเพชรโมเดล ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทั้งสามฝ่าย สมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรทั่วไปมีแหล่งรับซื้อผลผลิตในพื้นที่ เป็นการลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง ได้รับเงินปันผล เงินเฉลี่ยคืนในส่วนการทำธุรกิจกับสหกรณ์ สหกรณ์การเกษตรที่เป็นองค์กรของเกษตรกร ได้รับการสนับสนุนแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 0.01 เป็นเงินทุนในการดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตการเกษตรและสามารถขยายธุรกิจเพื่อให้บริการสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรทั่วไปได้เพิ่มขึ้นและการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์การตลาดที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ หรือจากจังหวัดให้เกิดความคุ้มค่าส่วนของผู้ประกอบการ มีปริมาณผลผลิตการเกษตรที่แน่นอน สามารถนำไปวางแผนการผลิต จัดการต้นทุนของกิจการ และยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร