รองอธิบดีอัยการภาค6 ลงพื้นที่!!ติดตามปัญหาความรุนแรง ภายในครอบครัว

รองอธิบดีอัยการภาค6  ลงพื้นที่  ติดตามปัญหาความรุนแรงภายในครอบครัวที่ตกเป็นข่าว พร้อมหวังเสริมความเข้มแข็ง สร้างโมเดลศูนย์ประสานงานฯระดับตำบลให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ที่ห้องประชุมสำนักงานอัยการจังหวัดกำแพงเพชร นายสมพงษ์ เย็นแก้ว รองอธิบดีอัยการภาค6 ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการประสานงานศูนย์อัยการคุ้มครองสิทธิเด็ก เยาวชนและสถาบันครอบครัวระดับจังหวัด โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามบันทึกข้อตกลงตาม MOU ประกอบด้วยสำนักงานอัยการจังหวัด สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัด สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิทางกฎหมายและบังคับคดีจังหวัด กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกำแพงเพชรสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกำแพงเพชร รวมทั้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกำแพงเพชร และผู้แทนสื่อมวลชนร่วมด้วย  ซึ่งการประชุมครั้งนี้ก็เพื่อติดตามสถานการณ์ตามที่สื่อสังคมออนไลน์และสื่อต่างๆได้เผยแพร่ต่อประชาชน กรณีการเกิดความรุนแรงในครอบครัวในเขตของอำเภอขาณุวรลักษบุรีเมื่อเร็วนี้

นายสมพงษ์  เย็นแก้ว  รองอธิบดีอัยการภาค6 ได้กล่าวว่า ศูนย์อัยการคุ้มครองสิทธิเด็กเยาวชนและสถาบันครอบครัวในระดับจังหวัดได้จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย โดยทำหน้าที่เกี่ยวกับการประสานงานติดตามผล การดำเนินงานระหว่างหน่วยงานในการแก้ไขปัญหาโดยตรง ว่าได้ทำหน้าที่ครบถ้วนตามบทบาทหน้าที่ ถูกต้องตามกฎหมาย ตรงประเด็นในแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร

รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการร้องเรียนกรณี พบการกระทำที่เข้าข่ายความรุนแรงภายในครอบครัว ดังนั้น การประสานงานเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงานจะต้องปฏิบัติด้วยความร่วมมือกัน และเพื่อให้ การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพจึงได้มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชนฯในระดับตำบลขึ้น โดยมีผู้บริหารท้องถิ่นท้องที่เป็นคณะทำงานมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงไม่แตกต่างกัน จะมีความใกล้ชิดกับแหล่งปัญหา โดยมีโครงสร้างและกลไกในการแก้ปัญหากำหนดเป็นข้อกฎหมายไว้อย่างชัดเจน

นายสมพงษ์ เย็นแก้ว ยังได้กล่าวอีกว่า ปัญหาความรุนแรงภายในครอบครัวแต่ละพื้นที่มีจำนวนที่เพิ่มขึ้นทุกขณะ มีรูปแบบความแตกต่างกัน จนทำให้น่าห่วงใยยิ่ง หากไม่ได้รับแก้ไขอย่างจริงจัง การแก้ปัญหาต้องมีความละเอียดอ่อน ต้องอาศัยนักจิตวิทยาหรือผู้ที่มีความรู้ประสบการณ์ในแต่ละด้านร่วมมือกัน ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นมีส่วนสำคัญในเรื่องของการดูแลเพราะมีความใกล้ชิด ที่จะรู้ว่าครอบครัวไหน บุคคลใดมีพฤติกรรมเสี่ยงหรืออาจจะก่อเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นภายในครอบครัว ก็สามารถที่จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือ ยับยั้ง แก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที

ดังนั้นตนเองจึงอยากจะให้ศูนย์ประสานงานอัยการคุ้มครองสิทธิเด็ก เยาวชนและสถาบันครอบครัวในระดับตำบล เป็นส่วนที่สำคัญที่จะต้องมีการจัดเก็บข้อมูล มีการกำกับ ติดตามอย่างใกล้ชิดที่จะเสนอแนะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นสามารถจบลงในระดับพื้นที่หรือจะส่งต่อในการดูแลช่วยเหลือตามขั้นตอนของข้อกฎหมาย  หลังจากนั้นคณะกรรมการทั้งหมดได้เดินทางไปยังอำเภอขาณุวลักษบุรีเพื่อรับฟังแนวทางการแก้ปัญหาของศูนย์ประสานงานในระดับตำบลและต่อไป

, , ,