สามัคคีคือพลัง!!ทอดผ้าป่าช่วยวัดจมน้ำ จ.ร้อยเอ็ด

แรงศรัทธาบุญชาวกำแพงเพชร ร้อยเอ็ด ทอดผ้าป่าช่วยวัดจมน้ำ จังหวัดร้อยเอ็ด กว่า 2 ล้านบาท

คณะแสวงบุญนำโดยนายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร ได้เดินทางไปทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อบูรณะพุทธสถานและสิ่งก่อสร้างพระอุโบสถ วัดโนนสวาท บ้านโนนเชียงบัง หมู่ที่ 4  ตำบลผักแว่น อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา (ซึ่งในอดีต 2528 รับราชการ ปลัดอําเภอโพธิชัย ปี 2531 ปลัดอําเภอปทุมรัตน์ และปลัดอําเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด)  ท่านนวลจันทร์ แสงอุทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกำแพงเพชร และ ท่านธัชชัย สีสุวรรณ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร (ในอดีต ปี 2556 รับราชการเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด)

ท่านสุชาดา สีสุวรรณ อดีตนายกเหล่ากาชาด จังหวัดกำแพงเพชร ร่วมด้วยนางรัชนี อัศวสุธีรกุล ห้างหุ้นส่วนสามเพชร และธรรมรัตน์คอนกรีต จำกัด ดร. เสริมวุฒิ และคุณอมรรัตน์ สุวรรณโรจน์ บริษัทเฉาก๊วยชากังราว จำกัด นายสวัสดิ์ และนางจำรูญ มุ่งงาม โรงสีสวัสดิ์ไพบูลย์ นายมนต์ชัย นางธัญญา รุ่งชาญชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกำแพงเพชร  โรงสีบริษัทสิงห์โตทองไรซ์คอร์ปอเรชั่น จำกัด นายไพโรจน์ แก้วแดง อดีตรองผู้ว่าฯ จ.กพ. นางสมพิศ แก้วแดง อดีตรองนายกเหล่ากาชาด นายประสิทธิ์ อินทโชติ นายอำเภอเมืองกำแพงเพชร และ ว่าที่ ร.ต.อานพ ศรีบุญลือ นายอำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด รวมทั้งกลุ่มแม่บ้านและชาวพุทธร่วมทอดผ้าป่ากันอย่างคึกคัก

นอกจากนี้คณะจากจังหวัดกำแพงเพชร ยังได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ ประกอบไปด้วย ต้นไทรใบสัก ต้นยางอินเดีย ภายในบริเวณของวัด สำหรับยอดผ้าป่าในครั้งนี้รวบรวมได้จำนวนทั้งสิ้น  2,003,140  บาท ด้วยการบอกบุญไปทางหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บริษัท ห้างร้าน โรงสี ประชาชนภายในจังหวัดกำแพงเพชร ที่ได้ร่วมอนุโมทนาบุญในครั้งนี้

สำหรับวัดโนนสวาท ผู้ใหญ่บ้านของที่นี่เปิดเผยว่า ประมาณการก่อตั้งวัดมาเมื่อปี พ.ศ. 2475 วัดนี้มีความเจริญรุ่งเรืองมาในอดีต เป็นพุทธสถานที่ชาวบ้านใช้ประกอบพิธีทางศาสนาต่อมาปี พ.ศ 2554 ได้เกิดอุทกภัยพื้นที่ภาคอีสานเป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งที่วัดโนนสวาทแห่งนี้ด้วย ทำให้ทางวัดได้รับความเสียหายถูกน้ำท่วมตลอดมา และอุโบสถพระประธานต้องจมอยู่ใต้น้ำ นอกจากนี้ ศาลาและกุฏิก็ต้องรื้อทิ้ง โดยมี พระครูจารุวรรณวโรภาส ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสมา 34 ปี ดูแลวัด หลังจากวัดถูกน้ำท่วมก็รกร้าง ชาวบ้านก็ไม่ได้รับความสะดวกที่จะมาใช้วัดในการประกอบพิธีทางศาสนา

ต่อมา พระ ดร.ชัยมงคล กัลยาโณ ซึ่งเจ้าอาวาสเป็นผู้บวชเณรให้ และส่งให้เรียนหนังสือ จนในที่สุดพระ ดร.ได้ไปเรียนอยู่ที่อินเดีย และ ไปทำหน้าที่เป็นพระธรรมทูตอยู่กว่า 10 ปี หลังจากนั้น กลับมาที่วัดได้เห็นวัดไม่เป็นที่เจริญ จึงได้รวบรวมบรรดาลูกศิษย์ ทำบุญบริจาคทรัพย์ก่อสร้าง ปรับพื้นที่ ขณะนี้เริ่มมีกุฏิเริ่มมีหอฉัน ห้องสมุด มีห้องน้ำเพื่ออำนวยความสะดวก ให้กับญาติโยมที่มาใช้บริการภายในวัด และขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา บูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถเดิมที่ถูกน้ำท่วม ขณะเดียวกันพุทธศาสนิกชนอุบาสกอุบาสิกา ชาวบ้านโนนเชียงบังได้ร่วมกันเข้ามาพัฒนาวัด

ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.2562 ลูกศิษย์จังหวัดกำแพงเพชร ได้บริจาคทรัพย์และเริ่มบูรณปฏิสังขรณ์วัดเรื่อยมาสร้างความดีใจให้กับชาวบ้าน ได้ปลื้มปิติที่จะได้มีวัดประกอบศาสนกิจของสงฆ์ และใช้ประกอบพิธีทางศาสนาของชาวพุทธที่วัดแห่งนี้

 

, , , , ,