เกษตรกรตำบลวังบัว น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ปรับพื้นที่ 2 ไร่ ปลูกดอกกระเจียว แซมปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผลยืนต้น เลี้ยงเป็ดเนื้อขายพันธุ์ มีรายได้ทุกวัน เกษตรจังหวัดลงพื้นที่ให้ความรู้เพิ่มเติม พร้อมส่งเสริมให้เป็นศูนย์เรียนรู้
ที่สวนดอกกระเจียวจันทา ตั้งอยู่เลขที่ 449 หมู่ที่ 7 ตำบลวังบัว อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร นายสยามและนางกัญฐญา จันทา (สามีภรรยา) หันหลังให้จากการขายแรงงานต่างแดนมุ่งสู่บ้านเกิด ใช้พื้นที่เพียง 2 ไร่สร้างรายได้รายวัน ด้วยการปลูกดอกกระเจียวสายพันธุ์เพชรน้ำผึ้ง แซมปลูกพืชผักสวนครัว ไม้ผลยืนต้น เลี้ยงเป็ดเนื้อขายพันธุ์
โดยเริ่มต้นจากการหาความรู้ดูจากยูทูป และขอคำแนะนำจากสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร เกษตรอำเภอคลองขลุง และสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดกำแพงเพชร เพราะเห็นว่าในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร ยังมีคนปลูกน้อยอยู่และเป็นพืชที่ปลูกง่าย ไม่ต้องใช้สารเคมี เพียงใส่ปุ๋ยคอกให้น้ำเพียงพอ ใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ดอกกระเจียวจะเริ่มออกดอก สามารถเก็บขายได้ทันที เมื่อได้ความรู้จนมั่นใจว่า ผลผลิตที่ออกมามีตลาดรองรับอย่างแน่นอน
จึงได้ซื้อพันธุ์ดอกกระเจียวลงมือปลูก เริ่มแรกๆยังไม่มีคนยอมรับ ด้วยความไม่ย่อท้อขยายพันธุ์ปลูกเรื่อยมาจนได้ 1 ปี มีดอกให้เก็บขายทุกวัน ในกิโลกรัมละ 70 บาท เฉลี่ยแล้ว มีรายได้จากการขายดอกกระเจียววันละ 400 บาท พ่อแม่ค้ามารับซื้อถึงที่ มีไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ในช่วงฤดูฝนเดือนพฤษภาคม ถึง เดือนตุลาคม ดอกกระเจียวจะออกดอกทุกวัน ผู้บริโภคนิยมนำดอกกระเจียวมาปรุงอาหารประเภท ผัด ลวกจิ้ม แกงส้ม ชุบแป้งทอด หรือรับประทานสด เป็นต้น นอกจากขายดอกแล้วยังขายพันธุ์ มีรายได้เพิ่มอีกด้วย
สำหรับภายในแปลงดอกกระเจียว ปลูกพืชผักสวนครัวแซมระหว่างร่องไว้กินเองได้ทุกวัน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือน ไม่ต้องสิ้นเปลืองมีเงินเหลือเก็บ ส่วนไม้ผลไม้ยืนต้น เมื่อโตเต็มวัยสามารถเก็บผลผลิตขายได้เช่นกัน ที่สำคัญจะช่วยบังแสงแดดให้ร่มเงาแทนสแลนที่จะหมดสภาพไป
ในส่วนของเป็ดเนื้อเลี้ยงไว้ เพื่อขยายพันธุ์ขาย เป็นการเพิ่มช่องทางรายได้ให้กับภาคครัวเรือนอีกช่องทางหนึ่ง อาหารของเป็ดส่วนหนึ่งได้จากใบดอกกระเจียวสับให้เป็นชิ้น แล้วให้เป็ดกินลดรายจ่ายลงไปได้อีกด้วย
ด้านนายสมยศ มโนวงศ์ เกษตรจังหวัดกำแพงเพชร นายปรารถ คันธวัน เกษตรอำเภอคลองขลุง นายถวิล สีวัง สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดกำแพงเพชร (ผู้ทรงคุณวุฒิด้านพืช) และนายวุฒิชัย ดีแป้น ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เกษตร ลงพื้นที่ให้ความรู้กับเกษตรกรเพิ่มเติม พร้อมส่งเสริมให้เป็นศูนย์เรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นสถานที่ศึกษาดูงาน ศูนย์เรียนรู้ของเกษตรกรทั่วประเทศ ซึ่งทำแล้วมีรายได้ทุกวัน