หญิงแกร่งเมืองกำแพง ความรู้จบ ป. 2 จากไม่มีที่ดินทำกิน รับจ้างหาทุนเช่าที่ ทำไร่มันสำปะหลัง จนมีเป็นอาชีพภาคภูมิใจ ซื้อที่ดินเป็นของตนเอง 140 ไร่ สร้างรายได้ต่อปีมีเงินเก็บนับล้าน
นางบุญชอบ โมกข์ทอง อายุ 52 ปี ที่อยู่ 206/2 หมู่ที่ 16 บ้านสามัคคีธรรม ตำบลคลองน้ำไหล อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร มีอาชีพเกษตรกรรม ทำไร่มันสำปะหลัง เป็นอาชีพที่ภาคภูมิใจ สามารถเลี้ยงดูตนเอง และครอบครัว เนื้อที่ 140 ไร่ ที่ได้มาด้วยหยาดเหงื่อ ทุ่มเทกับการทำการเกษตรด้วยความตั้งใจ มุ่งมั่น ที่จะสร้างความมั่นคง ยั่งยืน ของอาชีพนี้ และขยายผลไปสู่ชุมชน ด้วยการลดต้นทุนการผลิต ลดการใช้สารเคมี เพิ่มการใช้สารอินทรีย์มากขึ้น เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับเกษตรกรว่าสามารถทำได้จริง สร้างกำไรได้จริง
นางบุญชอบ โมกข์ทอง เล่าให้ฟังสู่ประตูแห่งความสำเร็จว่า ความคิดริเริ่มของการประกอบอาชีพเกษตรกรรม เริ่มจากการที่ครอบครัวของตนเองได้ทำการเกษตรมาก่อนแล้ว โดยพ่อและแม่ ได้ปลูกถั่วเหลืองเป็นพืชหลักที่สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว แต่ต้นทุนการผลิตสูง รายได้ต่ำ และใช้สารเคมีในการผลิตมาก ได้ไม่คุ้มทุน
ขณะนั้นได้รับจ้างขุดมันมันสำปะหลัง เห็นว่ามีรายได้ดี ต้นทุนการผลิตต่ำ จึงสนใจที่จะปลูกมันสำปะหลัง อีกหนึ่งเหตุผล คือ ด้วยความที่เป็นครอบครัวใหญ่ ต้องช่วยกันหารายได้ที่เพิ่มขึ้น ตนเองจึงต้องออกจากโรงเรียนมาช่วยพ่อแม่ทำงาน จึงจบแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 เพราะต้องส่งน้องๆ เรียนต่อ จึงต้องมาประกอบอาชีพเกษตรกรรมตั้งแต่นั้นมา โดยเริ่มต้นด้วยการเช่าที่ดินทำไร่มันสำปะหลัง
ปี 2540 ได้เช่าที่ดิน 5 ไร่ เพื่อทำมันสำปะหลัง ได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ รายได้ดีกว่าการทำไร่ ถั่วเหลือง ในปีต่อมาจึงได้เช่าที่ดินเพิ่มเป็น 10 ไร่ ในช่วงแรกของการทำไร่มันสำปะหลังได้ปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อเสริมรายได้แก่ครอบครัว การทำด้วยใจรัก มีความมุ่งมั่น จึงส่งผลให้ได้ผลตอบแทนที่ดี และการรู้จักออมส่งผลให้มีเงินเก็บเพียงพอที่จะซื้อที่ดินเป็นของตนเองได้ ปี 2552 มีเงินทุนซื้อที่ดินของตัวเองมาเรื่อยๆ จนมาถึงปัจจุบัน สิ่งสำคัญจะต้องมีการพัฒนาตัวเราตนเองทั้งในด้านวิชาการและการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ เพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการผลิตมันสำปะหลังและพืชอื่นๆ
ความสำเร็จของผลงานตลอดระยะเวลาปฏิบัติงาน ได้ทำไร่มันสำปะหลังเป็นอาชีพหลัก และปลูกผักสวนครัวเป็นอาชีพเสริมมาโดยตลอด จนมีเงินเก็บ มีทุนซื้อที่ดินและเช่าที่ เพื่อผลิตมันสำปะหลัง ปัจจุบันมีที่ดินเป็นของตนเองทั้งหมด 6 แปลง พื้นที่ 140 ไร่ และที่ดินเช่าทั้งหมด 4 แปลง พื้นที่ 43 ไร่การปลูก ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย โดยใช้กระแตะติดพ่วงท้ายรถไถ พร้อมบรรทุกท่อนพันธุ์ ให้แรงงาน จำนวน 3 คน อยู่บนกระแตะ แล้วหยิบท่อนพันธุ์มาปลูก สามารถประหยัดแรงงานได้ จากพื้นที่ 20 ไร่ ใช้แรงงาน 10 คนต่อวัน เป็นค่าจ้างแรงงาน 7,000 บาท/วัน เมื่อใช้เทคโนโลยีนี้เข้ามาช่วย พื้นที่ 20 ไร่ จะใช้แรงงานแค่ 3 คนต่อวัน เป็นค่าจ้างแรงงาน 1,050 บาท/วัน และค่าน้ำมัน 200 บาท/วัน รวมเป็นเงิน 1,250 บาท/วัน วิธีการนี้สามารถประหยัดเวลาและค่าจ้างแรงงานได้มาก
การใส่ปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยการใช้ฮอร์โมนที่ผลิตจากน้ำหมักไส้เดือน ลดการใช้สารเคมี ลดการใช้สารกำจัดศัตรูพืช โดยใช้น้ำกลั่นตะไคร้หอมที่กลั่นขึ้นเอง ผสมพร้อมกับน้ำหมักฮอร์โมนไส้เดือนดิน ฉีดพ่น สามารถป้องกันแมลงศัตรูมันสำปะหลังได้เป็นอย่างดี
ซึ่งจะเห็นได้ว่าสามารถลดต้นทุนลงได้ โดยเฉพาะต้นทุนเรื่องปุ๋ยเคมี อีกทั้งสามารถเปรียบเทียบต้นทุนการผลิตที่ใช้สารเคมี และปุ๋ยเคมี กับการผลิตโดยใช้อินทรีย์เข้ามาช่วย เห็นได้ชัดเจนว่า การใช้อินทรีย์ร่วมด้วย สามารถลดต้นทุนการผลิตได้ค่อนข้างมาก และทำให้ดินดี เป็นการเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดินอีกทางหนึ่ง
นอกจากการทำไร่มันสำปะหลังเป็นอาชีพหลักแล้ว ยังมีอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวได้มากเช่นกัน ด้วยการเลี้ยงไส้เดือนดิน การจำหน่ายพืชผักสวนครัว ผักไฮโดรโปรนิกส์ และผลิตภัณฑ์ที่ทำขึ้นเองภายในครัวเรือน เช่น แชมพูสระผม ครีมนวดผม น้ำยาซักผ้า ยาหม่อง ฯลฯ ซึ่งรายได้ที่ได้จากกิจกรรมเหล่านี้ มาจากพื้นที่ 2 ไร่ 1 งาน ภายในบริเวณที่อยู่อาศัย เป็นรายได้ที่นำไปขับเคลื่อนการทำไร่มันสำปะหลัง รวมทั้ง 183 ไร่
การปลูกพืชผักสวนครัวและผักไฮโดรโปนิกส์ จะไม่ใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช จึงทำให้ผักปลอดสารพิษ สามารถเป็นแหล่งอาหารภายในครัวเรือน ทำให้การลดค่าใช้จ่ายได้มาก และส่วนที่เหลือจากการบริโภคภายในครัวเรือน และจำหน่ายในงานเทศกาลและงานประเพณีต่างๆ ภายในท้องถิ่นและงานในระดับจังหวัด เช่น งานประเพณีสารทไทยกล้วยไข่เมืองกำแพง งานประเพณีนบพระ-เล่นเพลง จำหน่ายที่ห้างสรรพสินค้า Big-C สาขากำแพงเพชร และงานแสดงสินค้าต่างๆ ทั้งภายในและนอกจังหวัด กิจกรรมต่างๆ ที่เกิดการทำอาชีพเสริมนอกเหนือจากจากอาชีพหลักที่ทำไร่มันสำปะหลังเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสร้างความอบอุ่น ที่ได้อยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันของสมาชิกภายในครอบครัว
ซึ่งขณะนี้ นางบุญชอบ โมกข์ทอง ได้รับการพิจารณา คัดเลือกเกษตรดีเด่น สาขาอาชีพทำไร่ ระดับเขต จากกรมส่งเสริมการเกษตร/////สมาคมนักข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นกำแพงเพชร