ดับสยอง!!ผู้ว่าฯรุดเยี่ยมผู้รอดชีวิตรถตู้ชนต้นไม้ไฟคลอก9ศพ

ผู้ว่าราชการจังหวัดรุดเยี่ยม ชาวเมียนมาร์ผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุ 9 ศพ กำชับดูแลด้านการรักษาเต็มที่ ขณะที่ขนส่งจังหวัดเผย รถตู้รับผู้โดยสารเกินเงื่อนไข ตัดสัญญานจีพีเอส 

ความคืบหน้า จากอุบัติเหตุรถตู้รับผู้โดยสารเป็นชาวเมียนมาร์ หมายเลขทะเบียน 33-2779 กทม. คนขับรถชื่อนายคนวัฎ แซ่ฟู สัญชาติไทย ได้บรรทุกผู้โดยสารชาวเมียนมาร์ จำนวน 14 ราย เดินทางจาก จ.เพชรบุรี มุ่งหน้า อ.แม่สอด จว.ตาก ได้ประสบอุบัติเหตุเสียหลักชนต้นไม้ข้างทางและมีไฟลุกท่วม ที่ถนนพหลโยธิน ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 421-422 บริเวณโรงสีคงเดช ตำบลท่าพุทรา อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร เป็นเหตุให้คนงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์เสียชีวิต จำนวน 9 ราย เป็นชาย 3 ราย และหญิง 6 ราย ในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 6 ราย ได้นำส่งโรงพยาบาลคลองขลุง 4 ราย และโรงพยาบาลกำแพงเพชร 2 รายสำหรับสาเหตุเบื้องต้นคาดว่า เนื่องจาก รถอาจจะเสียหลัก หรือคนขับหลับใน โดยขณะนี้ ตม.จว.กำแพงเพชร ได้ประสาน ตม.จว.เพชรบุรี เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ของผู้ประสบเหตุทั้งหมด

 

ในวันเดียวกัน นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร รุดเยี่ยมผู้รอดชีวิต มอบกระเช้าให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บ และกำชับให้ดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลเป็นอย่างดี พร้อมกับเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ทั้งนี้ นายเชาวลิตร แสงอุทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่า จากรายงานเมื่อเช้าวันนี้ เวลาประมาณหกโมงเศษๆเกือบเจ็ดโมง มีรถตู้เหมามาจากจังหวัดเพชรบุรีเป็นแรงงานต่างด้าว 14 คน เป็นชาวพม่า และคนไทย 1 คน เป็นคนขับ มุ่งหน้าไปจังหวัดตาก พอเข้าเขตกำแพงเพชร อำเภอคลองขลุง ก็ได้เกิดอุบัติเหตุ สาเหตุนั้นยังไม่ทราบ แต่ทราบว่ารถลื่นไถลไปลงข้างทาง ไปชนกับต้นไม้ รถคันนี้ใช้แก๊ส มันก็เลยเกิดการลุกไหม้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 9 ราย เป็นชาวพม่าทั้งหมด เป็นหญิง 6 คน เป็นชาย 3 คน ที่เหลืออีก 6 ราย นำส่งโรงพยาบาลคลองขลุง และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย เลยนำส่งต่อไปที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร ส่วนที่โรงพยาบาลคลองขลุง มีผู้บาดเจ็บอีก 4 คน เป็นชายทั้งหมดเป็นชาวพม่า อยู่ในภาวะบาดเจ็บปานกลาง แพทย์ประมาณการว่าใช้เวลารักษาประมาณ 4-5 วัน

ส่วนรถตู้  เท่าที่ทราบรถคันนี้มีประกันเป็นของบริษัทอาคเนย์ เท่าที่ทราบรายละเอียดการช่วยเหลือรายละ 300,000 บาท ค่าเสียหายของตัวรถอีกต่างหาก และตอนนี้ได้ขอให้ท่านขนส่งจังหวัดกำแพงเพชร ได้ประสานในเรื่องของการส่งกลับ เพราะต้องส่งกลับไปที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และให้ทางหน่วยทหารและตำรวจนำผู้เสียชีวิตทั้ง 9 ราย ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นใคร เพราะต้องพิสูจน์อัตลักษณ์ส่งไปที่โรงพยาบาลตำรวจในวันนี้

มาตรการในการดูและป้องกันต่อไป ต้องมีการประชุม เส้นทางนี้ทราบว่าเป็นถนนทางตรงและไม่เคยมีอุบัติเหตุใหญ่เกิดขึ้น เบื้องต้นก็คงเป็นเรื่องของไฟแสงสว่าง ป้ายเตือน เป็นอย่างแรกที่ต้องทำแน่นอน เพราะเป็นถนนทางตรง ต้องใช้ความระมัดระวัง ส่วนที่สองเป็นเรื่องพฤติกรรมผู้ขับเอง ซึ่งเรายังตรวจสอบไม่ได้ว่าผู้ขับมีอาการหลับในหรือไม่ หรือมาจากสาเหตุอะไร หรือมีอะไรตัดหน้าหรือไม่ อันนี้ต้องรอให้ทางตำรวจสอบสวนอีกที แต่ที่แน่ๆครับ เมื่อมีเหตุเช่นนี้เกิดขึ้นแล้ว ทางจังหวัดกำแพงเพชร คงต้องคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องมาตรการในการดูแลความปลอดภัยทางท้องถนนทุกจุดในโอกาสต่อไป ซึ่งผมถือว่าเป็นนโยบายสำคัญที่ทางกระทรวงมหาดไทย และรัฐบาลได้มอบหมายไว้ให้ เพื่อลดการสูญเสียของอุบัติเหตุทางถนน

นายสุรชัย ทับยา ขนส่งจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยว่า รถตู้คันประสบเหตุ จีพีเอสไม่ขึ้น น่าจะเป็นการแท็กข้อมูลจีพีเอส ตัดสัญญานออกไป เราก็เลยไม่ทราบว่าเขาวิ่งเร็วเท่าไหร่ วิ่งจากไหน ขับมากี่คน เลยไม่ทราบข้อมูลพวกนี้ครับ ได้พูดคุยผ่านล่าม แจ้งว่า มาจากเพชรบุรี จะไปแม่สอด เป็นรถเช่าเหมา รถ30 ส่งคนงานเมียนมาร์ที่จะมาต่อวีซ่าที่แม่สอดครับ จากการตรวจสอบ ทั้งผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ทั้งคนขับ รวม 15 คน แต่เงื่อนไขในการจดทะเบียนรถคันนี้ให้ 13 คน รวมทั้งคนขับครับ ซึ่งรถคันนี้เข้าใจว่าน่าจะตัดสัญญานจีพีเอส เพื่อที่จะวิ่งความเร็วเกิน แล้วก็บรรทุกน้ำหนักและบรรทุกคน มากกว่าที่เงื่อนไขกำหนด ซึ่งจะได้ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดต่อไป/////มรมผู้สื่อข่าวส่วนกลางและท้องถิ่นจังหวัดกำแพงเพชร

, , , ,

Leave a Reply