เจ้าของโรงสีใหญ่ภาคเหนือ ร้องขอให้ตรวจสอบความเสียหายของภาครัฐ กรณีกองข้าวเน่าจะเข้าสู่ปีที่ 10 ปี
มหากาพย์ข้าว ยังไม่จบข้าวเน่าข้ามปี จากกรณีไฟไหม้คลังสินค้าให้เช่า A1 บริษัท สิงห์โตทองไร้ซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อ 2558 ต่อมาเมื่อปี 2563 (อคส.) ประมูลขายทั้งโกดัง รวมทั้งข้าวที่เสียหายระหว่างดับเพลิง ยังเหลือข้าวบางส่วนถูกกองทิ้งไว้ นายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย ประธานกรรมการบริษัท สิงห์โตทองไรซ์คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยได้รับความเสียหายจากการรับฝากข้าวที่ (อคส.) ทำสัญญาเช่าคลังสินค้าไว้เมื่อปี 2557 มีปัญหายืดเยื้อจะเข้าสู่ปีที่ 10 พร้อมได้พาดูกองข้าว คลังสินค้าให้เช่า A1 ที่บรรจุอยู่ในกระสอบป่านและถุงจัมโบ้ กองเรียงรายอยู่ด้านหน้าโกดัง สภาพข้าวกองข้าวเน่าเสียเสื่อมสภาพเห็นได้ชัดเชน แม้ว่าทางบริษัทฯมีหนังสือถึง (อคส.)หลายฉบับเพื่อให้มาดำเนินการขนย้ายข้าว ที่เน่าเสียหายออกจากพื้นที่บริษัทไปแล้วก็ตาม
นายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย เปิดเผยต่อว่า แปลกใจมากหลังทราบว่า (อคส.) ประมูลขายทั้งโกดัง รวมทั้งซากกองข้าวหน้าโกดังที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ ให้เอกชนรายหนึ่ง ระบุเป็นข้าวชนิดเข้าสู่อุตสาหกรรม ที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ผู้ประมูลขนย้ายข้าวในคลังหมดแล้ว และได้ขนข้าวดีบางส่วนที่กองอยู่ด้านหน้าคลังไป
ยังเหลืออีกประมาณ 2,000 ตัน (ตามบัญชี เช็คสต๊อกประจำปีขององค์การคลังสินค้า) ตามภาพที่ปรากฎอยู่ขณะนี้ ได้อนุมัติยกเลิกการซื้อขายให้กับบริษัทผู้ชนะการประมูลไปแล้ว ตนเองมองดูว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ทำได้หรือไม่จึงออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ กรณีการยกเลิกสัญญาซื้อขายข้าวให้กับภาคเอกชนในครั้งนี้ด้วย ส่วนประเด็นที่สอง บริษัทได้ทำหนังสือแจ้งขอให้ขนย้ายข้าวออกจากนอกคลังสินค้า ซึ่งกีดขวาง บริษัทขาดประโยชน์ในการใช้พื้นที่ และกองข้าวเน่ายังทำให้บริษัทเสียหายต่อภาพลักษณ์
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายมนต์ชัย รุ่งชาญชัย ทำหนังสือร้องถึง ปปช.ประจำจังหวัดกำแพงเพชรไปแล้วสองครั้ง เพื่อขอให้ลงพื้นที่มาตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุด้วยเรื่องก็เงียบ ได้มีหนังสือยื่นถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีได้รับความเสียหาย